ไม่ได้เขียนรีวิวมาตั้งนานแหนะค่ะ ตั้งแต่ย้ายไปทำงานที่ดูไบ จนตอนนี้ย้ายกลับมากรุงเทพฯ ถาวรแล้ว ก็ยังไม่ได้เริ่มเขียนเลย พอดีมีโอกาสเอาซะหน่อยนะ เดือนที่แล้วพินนี่เลื่อนๆ INSTAGRAM ดู พอดีตามบล็อกเกอร์ที่อยู่ลอนดอนอยู่คนนึง เค้ารีวิว Cleansing Water ของ Garnier ไว้
ซัก 3-4 วันถัดมา เลื่อนๆ ดูอีก อ้าว บล็อกเกอร์ที่ลอนดอนอีก4-5 คน ก็รีวิวไว้อีก ว่าชอบมากเหมือนตัวนี้จะดังมากที่ลอนดอน ณ ตอนนี้ แต่เหมือนตอนนั้นที่เมืองไทย ยังไม่เอาเข้ามาขาย ถัดจากนั้นไม่นาน รุ่นพี่ที่สนิทกันไปเที่ยวลอนดอน ก็โพสลงเฟส ตัวเองว่า เนี่ย ตัวนี้เจ๋งมากๆ ไม่น่าซื้อมาขวดเดียวเลย น่าจะซื้อมาหลายๆ ขวด (เพราะที่ลอนดอนตอนนั้นมีโปรโมชั่น 1 ขวด / 1 ปอนด์) (ถูกมากกกกกค่ะ อยากฝากพี่เขาซื้อเบยยย)
ต้นเดือนสิงหาคม ไปเดิน เทสโก้โลตัสแถวบ้านก็เจอ ตัวนี้วางขายอยู่ ดีใจมาก เข้ามาขายในไทยแล้ว ไม่ต้องฝากพี่เขาซื้อ จริงๆ ปกติใช้ตัวเช็ดเครื่องสำอางอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ ที่ใช้แล้วไม่แสบตา เพราะเวลาเช็ดตาทีไร ขนาดอันที่เคลมว่าไม่ระคายเคือง ไม่แสบตา เช็ดสะอาด พินนี่เช็ดแล้วก็ไม่สะอาดนะ ต้องขยี้ๆ ถูๆ จนตาจะเหี่ยวอยู่แล้ว มาสคาร่ากันน้ำนี่ไม่หลุดเลย แสบตาอีกตะหาก หายากมากๆ ตัวที่ใช้แล้วไม่แสบตา เพราะพินนี่แต่งตาเยอะและชอบใช้แบบกันน้ำ เพราะว่าอากาศเมืองไทยมันร้อน แต่งไปซักพักหน้าจะเยิ้ม จะมัน มาสคาร่าถ้าไม่กันน้ำ อายไลน์เนอร์ถ้าไม่กันน้ำ มันจะไหลลงมากองกันหมดเลย ปัญหาก็อยู่ตรงนี้ พอใช้แบบกันน้ำ มันก็จะเช็ดออกลำบาก ต้องถูแล้วถูอีก ตาเหี่ยวแบบที่บอกค่ะ
ได้มีโอกาสทดลองใช้ตัว การ์นิเย่ ไมเซลล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ ตัวฝาชมพู แล้วชอบมาก เป็นสูตรสำหรับผิวธรรมดา-ผิวแพ้ง่าย ซึ่งเหมาะกับพินนี่ ปกติพินนี่ไม่ชอบคลีนซิ่งแบบผสมน้ำมันเพราะมัน มันไปหมดเลย แสบตาด้วย แถมรู้สึกว่าเช็ดแล้วมันก็ไม่สะอาด แต่พอเป็นคลีนซิ่งแบบน้ำ นี่ตอบโจทย์มากๆ ค่ะ
ขวดของคลีนซิ่งตัวนี้ ป้อมๆ ถือง่าย ฝาปิดแน่นหนา ทำให้ไม่มีผลิตภัณฑ์หกไหลออกมาข้างนอก ดูน่าใช้ดีค่ะ สีชมพู คิกขุ
เป็นอันรู้กันว่า อายไลน์เนอร์แบบกันน้ำ กับ ลิปแมต นี่ทนมาก เช็ดออกยากมาก ดังนั้น พินนี่จะมาทดสอบให้ดูค่ะว่า เจ้าตัวการ์นิเย่ ไมเซลล่า คลีนซิ่ง วอเตอร์ นี่สะอาดหมดจดในขั้นตอนเดียวน่ะมันเป็นยังไง
- สีดำเป็นอายไลน์เนอร์
- สีชมพู เป็นลิปแมต
พินนี่เทตัวคลีนซิ่งลงสำลีแล้วโปะไว้ค่ะ ประมาณ 2-4 นาทีก็พอ ระหว่างโปะไว้ก็ทำอย่างอื่นได้นะคะจะได้ไม่เสียเวลา
ระหว่างนั้นกลัวว่าจะชุ่มไม่สะใจ ขอเทเพิ่มอีกหน่อย แล้วกัน
ครบ 3 นาทีแล้ว ขี้เกียจรอค่ะ เป็นคนใจร้อน ฮ่าๆๆๆๆ มาดูกัน
มหัศจรรย์อะไรเยี่ยงนี้ ดีงามพระราม 8 ค่ะ อายไลน์เนอร์หายไปหมดเลยยังกับมีแม่เหล็กดูด สะอาดมากนี่โปะไว้เฉยๆ ไม่ได้ถูเลยค่ะ ส่วนลิปแมต ยังพอมีหลงเหลือให้เห็นบ้างแต่โปะเข้าไปรอบที่สอง ก็สะอาดเกือบหมดเลยนะคะ ประมาณ 3 ครั้งจะสะอาดพอดีค่ะ
เอาล่ะ มาลองกับหน้าบ้างดีกว่า พินนี่แต่งหน้าออกไปทำธุระข้างนอกมาทั้งวัน ถึงบ้านก็ได้เวลาเช็ดออกละ มาดูกันว่าเช็ดออกมั้ย
คราวนี้พินนี่โปะไว้นานหน่อยค่ะ ประมาณ 5-6 นาที ไม่ได้ถูเลยสะอาดหมดจดในขั้นตอนเดียวแบบที่เคลมไว้จริงๆค่ะ แต่พินนี่โปะไว้แบบนี้หลายๆ ครั้งนะคะ ในแต่ละจุด
คิ้วนี่หลุดออกมาหมดตั้งแต่หนแรกเลยค่ะ แต่ลิปแมตนี่ต้องหลายๆ รอบหน่อยนะคะ เพราะมันแน่นมากจีๆ แต่ผลลัพธ์ทั้งหมด เป็นที่น่าพอใจมากกก (รัวกลอง) มาดูกานนนน เปรียบเทียบไปเยย เน้นๆ ฝั่งที่เช็ดด้วยการ์นิเย่ และฝั่งที่หน้ายังแน่น สะอาดแค่ไหนถามใจดูวววว (เห็นสิวตรงคางเบย 555)
สรุปว่าชอบมากๆ ไม่แสบตา ไม่มีแอลกอฮอล เช็ดสะอาดหมดจด ประหนึ่งมีแม่เหล็กมาดูดสิ่งสกปรกออกไป ขั้นตอนเดียวแค่เช็ดก็สะอาดเลย แต่ให้ดีล้างหน้าซ้ำอีกรอบเนอะ ข้อดีอีกอย่างคือไม่ทำให้หน้าแห้งตึงหลังใช้เลยค่ะ แล้วก็ไม่รู้สึกมันๆ แบบคลีนซิ่งแบบน้ำมันด้วย นี่คือข้อดีของคลีนซิ่งแบบน้ำ จริงๆ เขามีอีกสูตรนะคะ ฝาสีฟ้า Pure Active สำหรับผิวมัน-ผิวเป็นสิวง่าย
และแล้วตัวนี้ก็กลายเป็นลูกรักอีกหนึ่งตัว หมดแล้วซื้อซ้ำแน่นอนจ้า อย่าลืมไปซื้อทดลองใช้กันน้า
View :3565